Red Alert 3 — สงครามโลกสุดมันในจักรวาล Command & Conquer
1. บทนำ
Command & Conquer: Red Alert 3 คือเกมวางแผนการรบเรียลไทม์ (RTS) ที่พัฒนาโดย Electronic Arts Los Angeles (EA LA) เปิดตัวครั้งแรกในปี 2008 บน PC (Windows) และต่อมาออกบน Xbox 360 และ PlayStation 3
นี่คือภาคต่อจาก Red Alert 2 (2000) ที่โด่งดังมาก โดยยังคงเอกลักษณ์ของซีรีส์ไว้ครบ — กองทัพสามฝ่ายสุดแปลกแหวกแนว ฉากบ้าบอ แต่ระบบการเล่นจริงจังและลึก
2. เนื้อเรื่อง (Story)
Red Alert 3 ยังคงใช้คอนเซ็ปต์ "สงครามประวัติศาสตร์ทางเลือก (Alternate History)"
- ฝ่ายโซเวียต (Soviet Union) กำลังจะแพ้สงคราม พวกเขาใช้ ไทม์แมชชีน ย้อนเวลากลับไปลอบฆ่า Albert Einstein ผู้ให้เทคโนโลยีเหนือชั้นแก่ฝ่ายสัมพันธมิตร (Allies)
- ผลคือทำให้ จักรวรรดิญี่ปุ่น (Empire of the Rising Sun) กลายเป็นมหาอำนาจใหม่เข้ามาแทน
- สุดท้ายกลายเป็นสงครามสามฝ่าย: Soviets, Allies, Empire of the Rising Sun
ฉากคัตซีนยังคงเอกลักษณ์ "Live Action FMV" ที่ใช้ดาราคนจริง ๆ แสดง เช่น
- J.K. Simmons, Tim Curry, George Takei, Jenny McCarthy, Kelly Hu, Gemma Atkinson
3. ระบบการเล่น (Gameplay)
การสร้างฐาน (Base Building)
- ผู้เล่นต้องสร้างฐาน, เก็บทรัพยากร (Ore Nodes), ผลิตยูนิต, และพัฒนาเทคโนโลยี
- ระบบสร้างฐานภาคนี้เน้น ขยายไปตามน้ำ เพราะแผนที่จำนวนมากมีพื้นที่น้ำเป็นหลัก
ยูนิตและกองทัพ
- Allies: เน้นเทคโนโลยีสูง เช่น Cryocopter (แช่แข็งยูนิต), Mirage Tank
- Soviets: กำลังดุ อาวุธหนัก เช่น Apocalypse Tank, Tesla Trooper
- Empire of the Rising Sun: ยืดหยุ่นที่สุด มี Mecha Tengu ที่แปลงร่างเป็นเครื่องบินได้
โหมดการเล่น
- แคมเปญ (Campaign): มี 3 เส้นเรื่อง (Allies, Soviets, Empire) เล่นได้ทั้งแบบเดี่ยวและ Co-op Online (จุดขายสำคัญ)
- Skirmish: สู้กับ AI
- Multiplayer: สู้กันเองในออนไลน์
จุดเด่นใหม่
- Co-op Campaign: เป็นครั้งแรกของซีรีส์ที่แคมเปญหลักเล่นออนไลน์ร่วมกับเพื่อนได้
- น้ำมีบทบาทสำคัญ: ฐานและยูนิตจำนวนมากสามารถสร้าง/แปลงไปมาระหว่างบกและน้ำ
4. จุดเด่นของ Red Alert 3
- สามฝ่ายที่สมดุล
– แต่ละฝ่ายมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้การเล่นหลากหลาย - กราฟิกสดใส
– ใช้เอนจินใหม่ ภาพสีสันฉูดฉาด ไม่เหมือน RTS ที่เน้นสมจริง แต่ให้ความรู้สึก "การ์ตูนบ้าพลัง" - คัตซีนดาราดัง
– Live Action FMV ตลก โอเวอร์แอคติ้ง แต่เป็นเสน่ห์ - โหมด Co-op
– แคมเปญที่เล่นกับเพื่อนได้คือหนึ่งในจุดขายที่ทำให้เกมนี้โดดเด่น - เสียงดนตรี
– เพลงประกอบโดย Frank Klepacki (Hell March 3) กลายเป็นเพลงประจำภาคที่แฟน ๆ ชอบ
5. ข้อด้อย / คำวิจารณ์
- โทนการเล่าเรื่องเบาไป: เทียบกับ Red Alert 2 ที่มีบรรยากาศสงครามจริงจัง ภาคนี้บางคนมองว่าดูเป็น "Comedy" มากเกินไป
- AI ซ้ำ ๆ: ศัตรูบางครั้งมีพฤติกรรมเดาง่าย
- แผนที่น้ำเยอะเกินไป: ผู้เล่นบางคนไม่ชอบที่ต้องสร้างฐานในน้ำเกือบทุกด่าน
- สมดุลออนไลน์: ช่วงแรก ๆ มีปัญหายูนิตบางแบบเกินพลัง ต้องแก้ผ่านแพตช์
6. การตอบรับ
- คะแนนรีวิวเฉลี่ย Metacritic: ~82/100 (PC)
- แฟนเกมให้เสียงชื่นชมเรื่องระบบ Co-op และความบันเทิง แต่แฟนดั้งเดิมบางส่วนยังชอบ Red Alert 2 มากกว่า
- ยอดขายเปิดตัวแรงพอสมควร แต่ไม่ได้ต่อยอดยาวนานเพราะแนว RTS เริ่มเสื่อมความนิยมช่วงปลายยุค 2000
7. เหมาะกับใคร
- แฟน RTS ที่อยากเล่นเกมวางแผนเร็ว มันส์ และสีสันสดใส
- คนที่ชอบ Red Alert 2 และอยากลองสัมผัสภาคใหม่ที่ยังคงความ "บ้า ๆ บอ ๆ"
- ผู้เล่นที่อยากเล่นแคมเปญกับเพื่อนออนไลน์
- คนที่ชอบเกมสงครามแต่ไม่เอาจริงจังเกินไป
8. สรุป
Command & Conquer: Red Alert 3 คือภาคที่สืบทอดความมันส์ของซีรีส์ได้ดี แม้อาจไม่ยิ่งใหญ่เหมือนภาค 2 แต่ก็สร้างสีสันด้วยโหมด Co-op, ระบบน้ำ และกองทัพสามฝ่ายที่สมดุล จุดขายคือความ "บันเทิง" มากกว่าความสมจริง ทำให้ภาคนี้ยังถูกจดจำว่าเป็น RTS ที่เล่นสนุกที่สุดเกมหนึ่ง
ถ้าคุณอยากสัมผัสเกมวางแผนเรียลไทม์ที่ทั้งมันส์ ฮา และเต็มไปด้วยยูนิตสุดเพี้ยน — Red Alert 3 คือเกมที่ควรกลับไปลองสักครั้ง