Octopath Traveler
Octopath Traveler เป็นเกมแนว JRPG (Japanese Role-Playing Game) ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยกราฟิกแบบ HD-2D ซึ่งผสมผสานภาพพิกเซลยุค 16-bit (เหมือนเกมยุค Super Famicom/SNES) เข้ากับเอฟเฟกต์ 3D สมัยใหม่ ทำให้ได้บรรยากาศทั้งเก่าและใหม่ในเวลาเดียวกัน
สิ่งที่ทำให้เกมนี้โดดเด่นคือการเล่าเรื่องผ่านตัวละครหลัก 8 คน (Octo = แปด, Path = เส้นทาง) โดยผู้เล่นสามารถเลือกตัวละครเริ่มต้นได้อิสระ และค่อย ๆ รวมตัวละครที่เหลือเข้ามาในปาร์ตี้
จุดเด่นของเกม
- การเล่าเรื่องหลายมุมมอง
แต่ละตัวละครมีเส้นทาง (Path) และเรื่องราวเป็นของตนเอง เช่น นักรบ นักบวช นักเต้น นักพ่อค้า ฯลฯ ผู้เล่นจะได้สัมผัสการเดินทางที่แตกต่างกัน ทำให้เกมมีความลึกและเล่นซ้ำได้หลายครั้ง - ระบบการต่อสู้ (Turn-Based Battle)
เป็นการต่อสู้แบบสลับตา ใช้ระบบ "Break & Boost" ซึ่งผู้เล่นต้องหาจุดอ่อนของศัตรู (เช่น อาวุธหรือธาตุที่แพ้ทาง) เมื่อโจมตีถูกจุดอ่อน ศัตรูจะเข้าสู่สถานะ Break ทำให้โจมตีได้แรงขึ้น - กราฟิกสวยงามไม่เหมือนใคร
HD-2D คือเอกลักษณ์ของเกมนี้ มุมกล้องแบบไดนามิก เอฟเฟกต์แสงเงา น้ำ และควัน ช่วยทำให้โลกพิกเซลดูมีชีวิตชีวามากขึ้น - ดนตรีสุดอลังการ
เพลงประกอบโดย Yasunori Nishiki ได้รับคำชมอย่างมาก จนถูกยกให้เป็นหนึ่งใน Soundtrack เกม RPG ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในยุคใหม่
ความนิยม
- ได้รับคำวิจารณ์เชิงบวกอย่างล้นหลามจากสื่อและผู้เล่น
- ยอดขายทะลุ 3 ล้านชุด ภายในไม่กี่ปี
- เป็นแรงบันดาลใจให้ Square Enix ใช้สไตล์ HD-2D ทำเกมอื่น ๆ ต่อ เช่น Triangle Strategy, Live A Live Remake และ Dragon Quest III HD-2D Remake
- มีภาคต่อ Octopath Traveler II ที่วางจำหน่ายในปี 2023
ทำไมคนถึงรู้จักเยอะ?
- เป็นเกมที่ทำให้คนรุ่นใหม่และรุ่นเก่ามาเจอกันได้ เพราะรูปแบบการเล่นคลาสสิกแต่ใส่ลูกเล่นใหม่
- กราฟิก HD-2D กลายเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่มีใครเหมือน
- เกมถูกพูดถึงอย่างมากในโซเชียลและเว็บบอร์ดเกมต่าง ๆ โดยเฉพาะในหมู่แฟน RPG
- มีการสตรีมและรีวิวมากมายใน YouTube และ Twitch ทำให้ชื่อเกมนี้ติดหูคนทั่วโลก
แนวทางการเล่น
- เลือกตัวละครเริ่มต้นที่ชอบ (แต่ละคนมีสกิลเฉพาะทาง)
- ออกเดินทาง เก็บเพื่อนร่วมทีมให้ครบ 8 คน
- ใช้ระบบ Break & Boost ในการต่อสู้ วางกลยุทธ์ให้เหมาะกับศัตรู
- จัดการเส้นทางเนื้อเรื่องตามที่ผู้เล่นอยากให้ดำเนินไป อิสระและแตกต่างกันในแต่ละรอบการเล่น
สรุป
Octopath Traveler ไม่ได้เป็นแค่เกม RPG ธรรมดา แต่เป็นการคืนชีพของเสน่ห์เกมยุค 90's ที่ถูกนำมาผสมกับเทคโนโลยีใหม่ได้อย่างลงตัว เกมนี้เหมาะกับคนที่รักการผจญภัย การวางกลยุทธ์ และการเสพงานศิลป์ที่งดงาม
ถ้าเป็นแฟนเกม RPG คลาสสิก หรือชอบบรรยากาศแฟนตาซีที่มีทั้งความเก่าและใหม่ในเวลาเดียวกัน เกมนี้คือหนึ่งใน "Must Play" ที่ไม่ควรพลาด!