DRAGON BALL Z: KAKAROT — เกมที่ทำให้คุณ "เป็น" โงกุนจริง ๆ
1. บทนำ
Dragon Ball Z: Kakarot คือเกมแอ็กชัน RPG แนว "open-world" ที่พัฒนาโดย CyberConnect2 และจัดจำหน่ายโดย Bandai Namco Entertainment วางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อ มกราคม 2020 บน PlayStation 4, Xbox One และ PC (Steam) ต่อมาขยายไปยัง Nintendo Switch (2021) และ PlayStation 5 / Xbox Series X|S (2023)
สิ่งที่ทำให้เกมนี้แตกต่างจากเกม Dragon Ball ภาคอื่น ๆ คือแทนที่จะเป็นแค่เกมต่อสู้ (fighting) แบบตัวต่อตัว Kakarot เลือกเล่าเรื่องราวในรูปแบบ Action RPG ที่ทำให้ผู้เล่นได้ใช้ชีวิตในฐานะ ซน โงกุน (Kakarot) และตัวละครอื่น ๆ ผ่านเหตุการณ์สำคัญของ Dragon Ball Z
2. เนื้อเรื่อง (Story)
เกมนี้ครอบคลุม เนื้อเรื่องหลักของ Dragon Ball Z ตั้งแต่ต้นจนจบ
- Saga ไซย่า: การมาของ Raditz, การต่อสู้กับ Vegeta และ Nappa
- Saga ฟรีสเซอร์: การเดินทางไปดาวนาเม็ก, การต่อสู้กับ Ginyu Force และการปะทะกับ Frieza จนเกิด Super Saiyan ครั้งแรก
- Saga เซลล์: การประลอง Cell Games, บทบาทของ Gohan และการสละชีวิตของโงกุน
- Saga จอมมารบู: การปรากฏตัวของ Majin Buu, การหลอมรวม (Fusion) และการปิดฉากด้วยพลังวิญญาณ (Spirit Bomb)
นอกจากนั้นยังมี DLC ที่ขยายเนื้อเรื่อง:
- A New Power Awakens Part 1 & 2: เล่าเหตุการณ์ Dragon Ball Super (Beerus, Golden Frieza)
- Trunks: The Warrior of Hope: เรื่องราวโลกอนาคต Trunks ต่อสู้กับ Androids
- Bardock: Alone Against Fate: เรื่องราวของ Bardock พ่อของ Goku
3. ระบบการเล่น (Gameplay)
การต่อสู้ (Combat)
- เป็น Real-Time Action RPG ไม่ใช่ turn-based
- ใช้การโจมตีปกติ, คอมโบ, พลัง Ki Blast, และท่าไม้ตาย (Kamehameha, Final Flash, Special Beam Cannon ฯลฯ)
- มีระบบ Support Character เช่น Piccolo, Vegeta, Krillin เข้ามาช่วยโจมตี
- ผู้เล่นสามารถปลดปล่อย Transformation เช่น Super Saiyan, Super Saiyan 2, 3, Fusion และอื่น ๆ
การสำรวจ (Exploration)
- แผนที่กว้างใหญ่: ผู้เล่นสามารถบินไปทั่ว, เก็บไอเทม, ตกปลา, ล่าสัตว์, ทำอาหาร, และทำเควสต์ย่อย
- ระบบ Community Board: ใช้ Soul Emblems ของตัวละครมาติดตั้งเพื่อเพิ่มค่าพลัง/บัฟ
- มีมินิเกม เช่น ทำอาหารกับ Chichi, ตกปลา, แข่งกับตัวละครอื่น
การพัฒนา (Progression)
- ตัวละครอัปเลเวลได้, ปลดล็อกสกิลใหม่ ๆ
- สร้างอาหารเสริมพลัง, เก็บ EXP จากการต่อสู้และเควสต์
4. จุดเด่นของ Dragon Ball Z: Kakarot
- เล่าเรื่องแบบครบถ้วน
– เกมครอบคลุมทุก Saga ใหญ่ของ Dragon Ball Z และทำให้ผู้เล่นได้สัมผัสเนื้อเรื่องเหมือนอ่านการ์ตูนหรือนั่งดูอนิเมะอีกครั้ง - ประสบการณ์ "เป็นโงกุน"
– ไม่ใช่แค่การต่อสู้ แต่ยังมีกิจกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น กิน, ตกปลา, ขับรถ, ทำอาหาร - ระบบ RPG และ Open-World
– ให้ผู้เล่นสำรวจโลกของ Dragon Ball ได้อย่างอิสระ ไม่ใช่แค่ฉากต่อสู้ - เพลงประกอบและเสียงพากย์
– มีทั้งเสียงญี่ปุ่นและอังกฤษ, เพลงคลาสสิกจากอนิเมะที่แฟน ๆ คุ้นเคย - DLC ที่ต่อยอดเนื้อเรื่อง
– จาก Dragon Ball Super และเรื่องราวพิเศษ Bardock, Trunks ทำให้แฟน ๆ ได้สัมผัสเนื้อหาที่ไม่เคยเล่นในเกมหลัก
5. ข้อด้อย / คำวิจารณ์
- โลกกึ่ง Open-World ที่บางจุดดูโล่ง: แม้จะมีแผนที่กว้าง แต่บางพื้นที่ไม่มีสิ่งให้ทำมากนัก
- ระบบต่อสู้ซ้ำ ๆ: ศัตรูทั่วไปใช้รูปแบบคล้าย ๆ กัน ทำให้การต่อสู้นอก Saga ใหญ่รู้สึกจำเจ
- เควสต์ย่อยไม่ดึงดูด: บางเควสต์เสริมเป็นแบบ "ไปเก็บของ / ไปช่วยตัวละคร" ทำให้ขาดความน่าติดตาม
- FPS / Performance บนบางแพลตฟอร์ม: โดยเฉพาะเวอร์ชัน Switch ที่ต้องลดกราฟิกเพื่อรักษาความลื่นไหล
6. การตอบรับและความนิยม
- สื่อเกมให้คะแนนเฉลี่ยประมาณ 7.5 – 8.5/10
- บน Steam ได้รับรีวิว "Mostly Positive"
- ยอดขาย: ภายในปี 2023 เกมมียอดขายทะลุ 8 ล้านชุดทั่วโลก
- แฟน ๆ Dragon Ball ส่วนใหญ่ชื่นชมว่าเป็นเกมที่ "ดีที่สุดในการเล่าเรื่องราว Dragon Ball Z"
7. เหมาะกับใคร?
- แฟน Dragon Ball ที่อยากสัมผัสเรื่องราว Z Saga แบบเต็มอิ่ม
- คนที่ชอบเกม Action RPG และ Open-World ที่ผสมการต่อสู้ + สำรวจ + กิจกรรมชีวิตประจำวัน
- ผู้ที่อยากหวนรำลึกความทรงจำวัยเด็กกับอนิเมะ Dragon Ball
8. สรุป
Dragon Ball Z: Kakarot ไม่ใช่แค่เกมต่อสู้ แต่เป็นการ "ใช้ชีวิตในโลก Dragon Ball" อย่างแท้จริง ผู้เล่นจะได้เดินทางผ่านเหตุการณ์ตั้งแต่ Saiyan Saga ไปจนถึง Majin Buu Saga พร้อมระบบ RPG ที่ทำให้ทุกการต่อสู้และกิจกรรมมีความหมาย
แม้อาจมีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น โลกที่ยังโล่ง หรือเควสต์เสริมที่ไม่หลากหลาย แต่ในแง่ของ "แฟนเซอร์วิส" และการเล่าเรื่องแบบเต็มรูปแบบ เกมนี้ถือเป็นหนึ่งใน เกม Dragon Ball ที่ดีที่สุดในยุคใหม่ และยังคงมี DLC ต่อเนื่องเพื่อขยายจักรวาลให้แฟน ๆ สนุกได้อีกยาวนาน